พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar
PV Rooftop) หนึ่งในพลังงานทดแทนที่มีประโยชน์คุ้มค่าและน่าลงทุน
เนื่องจากเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่แล้ว นั่นคือแสงอาทิตย์ มาผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าไว้ใช้เองในบ้าน
อาคาร หรือหากผลิตได้มากก็สามารถจำหน่ายคืนให้การไฟฟ้าได้
เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสร้างรายได้
โดยปกติการทำโซล่ารูฟทอปหรือการติดตั้งบนหลังคา ดังนั้น ผู้ปฎิบัติงานควรคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยได้ดี
วางแผนก่อนการติดตั้ง
1.ตรวจสอบโครงสร้างของหลังคาหรือจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
เช่น กระเบื้องหลังคามีจุดไหนที่เปราะ
2.บางสถานที่ปฏิบัติงานใกล้สายไฟแรงสูงหรือไม่
ทั้งนี้ต้องมีการวางแผนและแก้ไขจุดเสี่ยงต่างๆ
ให้เรียบร้อยก่อนปฏิบัติงาน
3.เตรียมแผนการจัดการกับสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย
เช่น ลมแรง ฝนฟ้าคะนอง รวมถึงแผนป้องกัน
การเกิดอุบัติเหตุตกจากที่สูง
4.ช่างติดตั้งต้องได้รับการฝึกอบรมและสามารถติดตั้งได้อย่างถูกวิธี
การติดตั้ง
1.ต้องใช้นั่งร้านในการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์
โดยมีการตรวจสอบความสมบูรณ์ก่อน การใช้งานจริง
และควรได้รับการออกแบบและติดตั้งจากช่างผู้มีความเชี่ยวชาญ
2.ใช้รอกในการเคลื่อนย้ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์จากพื้นสู่หลังคา
โดยตรวจสอบเชือกและรอกก่อนใช้งาน
3.มีตาข่ายรองด้านล่าง
เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์หรือช่างผู้ติดตั้งพลัดตกลงสู่พื้น
4.ติดป้ายเตือนเพื่อความปลอดภัยของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
5.ช่างผู้ติดตั้งต้องสวมอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล
อุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูงและต้องมีผู้ปฏิบัติ
งานอย่างน้อย 2 คน
6.การต่อระบบไฟฟ้าต้องดำ
เนินการโดยช่างผู้ชำ นาญ เพื่อป้องกันไฟช็อต
7.ต้องติดตั้งระบบสายดิน
และติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันแรงดันสูงชั่วขณะ
8.กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
(พพ.) กระทรวงพลังงาน ด้แนะนำ ผู้ดำเนินการ
ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา
สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.dede.go.th
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้ง
1.มอก.2572-2555 เป็นมาตรฐานที่ครอบคลุมระบบจ่ายแรงดันไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์และใช้กับการติดตั้งทางไฟฟ้าระบบจ่ายแรงดันไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์
รวมถึงระบบที่มีโมดูลไฟฟ้ากระแสสลับ
อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล
1.หมวกนิรภัย ช่วยป้องกัน
ศรีษะจากการถูกกระแทก ชน หรือวัสดุตกจากที่สูง มากระทบศรีษะ
2.แว่นตานิรภัย ช่วยป้องกันและลดอัตรายจากการเศษวัสดุ
สารเคมี หรือรังสีที่จะทำให้ใบหน้าและดวงตา เป็นอันตรายได้
3.ถุงมือนิรภัย ช่วยป้องกันอันตรายจากการถูกวัตถุมีคมบาด
ตัด การขูดขีดที่ทำให้ผิวหนังถลอก การจับของร้อนหรือการใช้มือสัมผัส
4.สายช่วยชีวิต ใช้ผูกติด
กับตัวผู้ปฏิบัติงาน และอีกด้าน หนึ่งยึดติดกับกับโครงสร้าง ที่มั่นคง เพื่อป้องกันการพลัดตกจากที่สูง
5.สายรัดลำตัว ช่วยป้องกัน
การตกจากที่สูงหรือการ ทำงานที่ต้องลงไปในที่ต่ำ ใช้การผูกติดกับสายช่วยชีวิต เฉลี่ยแรงกระตุกได้ดีกว่าเข็มขัดนิรภัย
6.เข็มขัดนิรภัย ช่วยป้องกันการตก
จากที่สูง หรือการทำงานที่ต้องลง ไปในทีต่ำ ใช้ผูกติดกับสายช่วยชีวิต
7.รองเท้านิรภัย ช่วยป้องกัน
อันตรายหรือการบาดเจ็บ ของเท้าจากการถูกกระแทก ถูกทับ หรืองานมีอันตรายอื่นๆ
เกียวกับรองเท้า
![]() |
อุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคล |
อ้างอิงจากกระทรวงพลังงาน 2557
![]() |